วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

เมื่อต้องนั่งดื่มเหล้ากับผู้หญิงสี่คน

เรื่องราวไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่พาดหัวข่าวให้น่าตื่นเต้นเท่านั้นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

ในวันที่รู้สึก..ท้อ

หนักจักฝ่าไป
หัวใจจักทรนง


ริ้วรุ้งทอดโค้งลง
ตรงชายฟ้าอันอำไพ


ถ้าสองมือยื่นออกคว้า
แล้วได้มาซึ่งฝันใฝ่


ชีวิตจะมีอะไร
เมื่อง่ายง่ายไม่ดิ้นรน


อุปสรรคที่ขัดขวาง
กำหนดทางพิสูจน์คน


จงสู้สุดแรงตน
จึ่งพบค้นคุณค่าตัว




กลอนบทนี้ ผมเคยอ่านและเขียนไว้เป็นกำลังใจ ให้ตัวเอง ยามที่เหนื่อย ท้อแท้ สับสนในชีวิต ที่บางครั้งมันช่างเข้าใจได้ยากเย็นเหลือเกิน ทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเองเสมอ ใช่นะมันคงเป็นแบบนั้น บางที่ผมอาจจะอ่านหนังสือคอมพิวเตอร์มากไป จนลืมอ่านหนังสือประเภท"สามก๊ก" หรือ"ซุนวู" รึผมต้องหามาอ่าน........แต่คงไม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นยุทธพิชัยสงครามเล่มใดล้วนมุ่งเอาชนะฝ่ายตรงข้ามทั้งนั้น ยังไม่เห็นเล่มใดที่แสดงความจริงใจกับผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนแม้แต่เล่มเดียว ถึงนาทีนี้คงมีอย่างเดียวที่จะทำให้ใจสงบได้ ใช่สินะธรรมะ ของพระพุทธเจ้าไงหล่ะ ผมเป็นชาวพุทธ ตื่นเช้ามาตักบาตร แต่ผมยังไม่ทราบซึ้งในรสพระธรรมดีพอ ผมเคยบวชแล้วนะแต่การบวชทำให้ผมสวดมนต์ได้เท่านั้นหรือ อืม....ผมให้อภัยพวกเขาแล้วหล่ะ รู้สึกดีขึ้นมากเลยจริงๆ รู้งี้ผมน่าจะให้อภัยพวกเขานานแล้ว