วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว

            นานแล้วไม่ได้เขียนบันทึก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่มีเรื่องเขียน หรือว่าไม่มีเวลาเขียน แต่วันนี้ขอบันทึกไว้สักหน่อย เคยออกเยี่ยมผู้ป่วยวัณโรคแทบทุกคนที่ขึ้นทะเบียนในอำเภอ แต่ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จะเจอคนที่เคยพบกัน เมื่อ 5 ปีก่อน
            เมื่อประมาณ 5 ปี ที่แล้ว มีชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยเสื้อซาฟารีสีกรมท่ามอมๆ ด้อมๆมองๆ ที่ด้านหน้าประตูของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้ว ก่อนที่จะถามว่าหมอแฟรงค์ทำงานที่นี่มั้ย ทันทีที่มองเห็นหน้าของผม แววตาที่ลังเล ท้อแท้ ของแกดูมีประกายขึ้นมาทันที แกเล่าว่ามาเฝ้าลูกสาวคลอดลูกที่โรงพยาบาลได้หลายวันแล้ว วันนี้เป็นวันที่หมอให้กลับบ้านได้ แต่กว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลก็เป็นช่วงบ่ายแล้ว ช่วยตามรถประจำทางมารับที ซึ่งรถประจำทางที่เข้าออกหมู่บ้านนี้มีเพียงคันเดียว แดนรถเพียงเที่ยวเดียว ปรากฎว่ารถประจำทางได้กลับไปแล้ว
            เมื่อ20 ปีที่แล้ว บรรจุทำงานครั้งแรก ผมบรรจุทำงานที่สถานีอนามัยทุ่งมน ที่ตำบลนี้เหมือนกับเป็นบ้านเกิดในชีวิตหมออนามัย หากเปรียบเหมือนหนอนผีเสื้อ ตำบลแห่งนี้เองหนอนผีเสื้อตัวนี้ได้ลอกคราบออกมาเป็นผีเสื้อโบยบินอย่างมีความสุขในความเป็นหมออนามัย เย็บแผล เบ็ดเกี่ยวขา เงี่ยงปลาปัก ฉมวกยิงปลาแทงเรื่องจิ๊บๆ งานป้องกันควบคุมโรค งานมวลชน ทีมงานกรรมการหมู่บ้านตุ้มโฮมตรึม!!!  ทุกวันต้องจัดคิวไปกินข้าวเย็นในแต่ละหลังคาเรือน(เวอร์)  ผมนอนที่สถานีอนามัยค่าเวรไม่มี ค่าตอบแทนไม่มีสักอย่าง แต่มีความสุขมาก ปลาตัวใหญ่ๆ อาหารที่อร่อยๆ อาหารแปลกๆที่ชาวบ้านหามาได้จะต้องเรียกหมอไปกินด้วยเสมอ ผมยังจำได้ในบางครั้งที่กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่จะมีของฝากจากชาวบ้านฝากกลับไปให้ด้วยเสมอ บางครั้งไม่อยู่บ้านพักกลับมาบางทีเจอกล้วยน้ำว้าห้อยไว้ที่บันไดบ้านพักพร้อมจดหมายน้อยหนึ่งฉบับ(เขียนไปยังแอบยิ้มเมื่อคิดถึงวันเก่าๆ) คนในตำบลนี้จึงเหมือนกับญาติของผมทุกคน
              ผู้ป่วยทีผมเจอวันนี้ เป็นผู้หญิงที่ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลเมื่อ 5 ปีก่อน วันนี้เธอป่วยด้วยวัณโรค จิตเวช ไธรอยด์ สามีแทบจะเรียกว่าทิ้งไปแล้ว นานๆมาดูลูกทีหนึ่ง ทุกวันนี้มีเพียงอยู่กับลูก และ พ่อ ที่ดูแลเธอมาตลอด
              เมื่อ 5 ปีก่อนผมตัดสินใจขับรถมาส่งครอบครัวนี้ เพื่อแลกกับอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้รับมันนับตั้งแต่ย้ายเข้ามาทำงานที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ แล้วสิ่งที่ผมได้รับมันคุ้มค่าจริงๆหลังจากนั้นหนึ่งวันมีคนฝากพริกและมะเขือมาให้....ความรู้สึกเมื่อ 20 ปีที่แล้วผมได้มันกลับมาแม้เพียงชั่วคราวก็ตาม